
การใช้ชีวิตร่วมกับโรคมะเร็ง
เมื่อรู้ว่าคุณเป็นมะเร็ง
ในขณะที่เรากำลังดำเนินชีวิตตามปกติสุข วันหนึ่งเกิดมีอาการป่วยขึ้นและทราบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งร้าย แล้วเราจะต้องทำอย่างไร?
ถ้าทราบว่าป่วยด้วยโรคมะเร็ง ขั้นตอนแรกที่ต้องทำคือ รวบรวมสติและสอบถามรายละเอียดและขั้นตอนในการปฏิบัติตัวเกี่ยวกับโรคที่เกิดขึ้นกับเรา จากนั้นผู้ป่วยอย่าเพิ่งตัดสินใจในการรักษาโดยทันที ขอแนะนำว่าให้ปรึกษากับญาติ หรือปรึกษากับผู้รู้ก่อน ไม่ควรด่วนตัดสินใจ เพราะบางทีอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างยิ่งใหญ่เหมือนกับตัวอาตมาภาพที่เคยประสบมา เพราะมันหมายถึงชีวิต
อย่าลืมว่าคนไข้มีสิทธิที่จะเลือกรับวิธีการรักษา ว่าจะรักษาโรคอย่างไร เลือกรับการรักษาจากแพทย์ รับการรักษาด้วยวิธีบำบัดทางธรรมชาติ หรือใช้ทั้งสองวิธีร่วมกัน
อาตมาภาพอยากบอกว่า มะเร็งนั้นไม่ใช่โรคที่น่ากลัวถ้าเรารู้จักวิธีการรักษา ที่สำคัญได้รับกำลังใจที่ดีจากครอบครัว ญาติพี่น้อง รวมทั้งเพื่อนหรือคนรู้จัก ถ้าผู้ป่วยจิตใจท้อแท้ หดหู่ แล้วยากที่จะรักษาได้ เรื่องสภาพจิตใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาของผู้ป่วยเอง
วิธีการรักษาโรคมะเร็งที่ดีที่สุดทางการแพทย์แผนปัจจุบันคือ การผ่าตัด เคมีบำบัด ฉายรังสี
ในเรื่องการผ่าตัดนั้น ไม่ใช่วิธีการการรักษาโรคมะเร็งแล้วจะสามารถหายขาดได้ เพราะส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่รับการผ่าตัดไปแล้ว เซลล์มะเร็งสามารถงอกขึ้นมาภายหลังการผ่าตัดได้อีกในช่วงประมาณเจ็ดถึงสิบปี
ส่วนการใช้เคมีบำบัดนั้นใช้ได้ผลดีที่สุดในการักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ในกรณีของอาตมาภาพ ก่อนให้เคมีบำบัด ก็ได้สอบถามแพทย์ก่อนว่าผลการรักษาจะดีขึ้นมากน้อยเพียงใด แพทย์บอกกับอาตมาภาพว่า ดีขึ้นประมาณ ๒๐% แต่ถึงอย่างไรก็ดีอาตมาภาพก็ยังเลือกที่จะรับการักษาด้วยเคมีบำบัดเพราะไม่มีทางเลือกที่คิดว่าดีกว่าวิธีนี้แล้ว (ความคิดและความรู้สึกในขณะนั้น)
แต่ผลที่เกิดขึ้นคือ การบำบัดด้วยวิธีการบำบัดนั้น สารเคมีบำบัดเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกายและอาจรวมถึงทำลายเซลล์ที่ปกติด้วย จึงทำให้ร่างกายของเรามีสภาพผอมแห้ง ดำ บางครั้งอาจมีอาการแพ้ร่วมด้วย แต่อย่างไรก็ตามอาการที่เกิดขึ้นกับตัวผู้ป่วยที่ได้รับจากวิธีเคมีบำบัดนั้นอาจเกิดจากชนิดของเคมีที่ใช้บำบัดและสภาพร่างกายของผู้ป่วยเอง ซึ่งอาตมาภาพคิดว่าตัวอาตมาภาพทำการักษาด้วยวิธีใช้เคมีบำบัดนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวอาตมาภาพนั้นไม่เท่ากับสิ่งที่อาตมาภาพเสียไป
ดังนั้นแล้วอยากจะแนะนำว่าควรใช้เวลาคิดสักนิดก่อนที่จะตัดสินใจ